การสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน job ที่ดีคือการพัฒนาตัวอย่างอยู่เสมอ

การตั้งเป้าหมายในการทำงาน job เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้ การทำงานที่ตอบโจทย์กับความต้องการในสิ่งที่ทำ เพื่อนำเสนอแก้หัวหน้าให้เป็นไปตามที่มุ่งหวังไว้ ควรมีแนวคิดการเป็นนักพัฒนาตนเอง หมั่นเติมความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ก้าวไปข้างหน้าย่อมมีโอกาสเติบโตในอนาคต ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับงานของตนเองให้ออกมาในทิศทางที่ต้องการและดียิ่งขึ้น

จากมุมมองการหางานและสภาวะการแข่งขันทางด้านตลาดแรงงานค่อนข้างสูง ทำให้บางองค์กรต้องแบกรับภาระจำนวนงานที่มากขึ้นเนื่องจากมีพนักงานลาออกในแต่ละวัน มีความรู้ความเข้าใจในพฤติกรรมของคนที่ทำงานร่วมกัน ดังนั้นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการสรรหาทรัพยากรบุคคลคุณภาพเพื่อช่วยคัดสรรคนทำงานที่มีคุณภาพ เพื่อมุ่งเน้นเตรียมความพร้อมสำหรับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แนวคิดเพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหา การมอบหมายงานเพื่อให้การอัพเดทงานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ต้องคำนึงถึงการสื่อสารที่ดีต่อหัวหน้างาน และเพื่อร่วมงาน พนักงานที่มีประสบการณ์ย่อมสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าพนักงานใหม่ ย่อมเป็นประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน การปรับทัศนคติที่ดีในการทำงาน และการยอมรับความผิดพลาดแล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข การสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานบางครั้งก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างาน

เราสามารถพัฒนาการทำงาน job ของตนเองได้อย่างไร

  1. ศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติม การเติบโตในสายงานนั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการยอมรับจากหัวหน้างานและเพื่อรวมงานเสียก่อน เน้นปัญหาในภาพรวมของการทำงานร่วมกัน ดังนั้นการมีทักษะและศิลปะการทำงานที่ดีย่อมส่งผลต่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ที่มีความขัดแย้งระหว่างหัวหน้างานและพนักงานนั้นมีจำนวนมาก ควรมีการพูดและทำการแก้ไขโดยเร็ว มิฉะนั้นจะมีผลต่อการทำงานในอนาคตได้ สรุปแนวทางของการแก้ไขปัญหา การวางเป้าหมายในการทำงานและรวมมือการทำงานเป็นสิ่งที่ดีที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ นอกจากนี้ไม่ว่านักศึกษาจบใหม่ หรือคนที่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้วก็ตาม การหาความรู้ใหม่ๆ ควรกำหนดผลติดตามประเมินเป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยพัฒนาตนเองถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ไม่ควรที่จะหยุดการเรียนรู้ มิเช่นนั้นเราจะไม่สามารถต่อสู่กับคู่แข่งขันได้

 

  1. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ต้องยอมรับว่าทุกคนย่อมมีความคิดเป็นของตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นบางครั้งความคิดของเราอาจไม่ถูกต้องเสมอไป การจดบันทึกในแนวทางการแก้ไขปัญหา หรืออาจจะไม่ได้เป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก ดังนั้นการเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เราเรียนรู้นิสัยใจคอ และทักษะการทำงานของผู้อื่นอีกด้วย ตัวเลือกในการปรับปรุงงานต่อไป ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่หลายองค์กรมีการอบรมพนักงานเพื่อให้มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน หรือมีทัศนคติเชิงบวก ต่อเพื่อรวมงาน หัวหน้างาน สภาพแวดล้อง และองค์กรอีกด้วย

 

  1. นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงและแก้ไข การเรียนรู้ความผิดพลาดจากงานที่ทำ ถือเป็นครูสอนที่ดีที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่ตัวเราเองประสบพบเจอจริง กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว การนำสิ่งผิดพลาดเหล่านั้นมาแก้ไขและปรับปรุงเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่ดี ที่จะเปรียบเสมือนคำเตือนให้เรามีความรอบคอบการทำงานอะไรหรือก่อนส่งงานนั้นๆ ซึ่งความผิดพลาดส่วนใหญ่จะได้รับการแก้ไข คนเราส่วนใหญ่จะไม่เห็นความผิดพลาดของตน สามารถปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายได้ทัน หรือความผิดพลาดในงานของตน ดังนั้นการเปิดใจรับฟังและยอมรับความผิดพลาดถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นแรงบัลดาลใจเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

 

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไร สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ หัวใจหลักในการทำงานคือความรอบคอบ ขยันหาความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ถ้าเราไม่อยากให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเหนือกว่าการทำงานของเรา เปิดกว้างให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นหรือนำเสนอไอเดีย เราจึงความแก้ไขและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของตนเองให้เหนือกว่า